ทำเอาแฟนๆ ฟินติดหน้าจอกันเลยทีเดียว เมื่อพิธีกรชื่อดังอย่าง บ๊วย-เชษฐวุฒิ วัชรคุณ ทำเซอร์ไพรส์ด้วยการจู่โจมกอดอดีตภรรยา ตุ๊ก-ชนกวนันท์ รักชีพ ซึ่งฝ่ายหญิงออกอาการเขินอย่างเห็นได้ชัด จนหลายคนอดอมยิ้มตามไม่ได้
ล่าสุดทางด้าน ตุ๊ก ชนกวนันท์ ก็ได้ออกมาเผยถึงโมเมนต์ดังกล่าว ซึ่งเธอยอมรับว่ารู้สึกเขินจริงๆ และตอนนี้ก็ยังเป็นอยู่ แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ส่วนทางด้านความสัมพันธ์กับอดีตสามียังคงเหมือนเดิมทุกอย่าง ทั้งเรื่องการพูดคุยและการดูแลลูก
หากย้อนกลับไป “ตุ๊ก” เล่าไม่เคยคิดหย่าอดีตสามี “บ๊วย” ที่ผ่านมาพยายามตามง้อขอสามีคืนดีทุกปี ในวันครบรอบขอแต่งงาน แต่ฝ่ายชายบอกที่เป็นอยู่ตอนนี้ก็ดีอยู่แล้ว
หย่ากันร่วม 10 ปี แต่เป็นครั้งแรกที่ “ตุ๊ก ชนกวนันท์ รักชีพ” ถึงสาเหตุการแยกทางกับอดีตสามี “บ๊วย เชษฐวุฒิ วัชรคุณ” ในรายการคลับฟรายเดย์ ว่าที่ผ่านมาเคยขอคืนดีกับอดีตสามีในทุกวันที่ 22 ตุลาคมของทุกปี ซึ่งเป็นวันที่อดีตสามีขอแต่งงาน
“ทุกวันที่ 22 ต.ค. คือวันที่เขาขอแต่งงาน แต่เขาไม่รู้ว่ามันคือวันที่เท่าไหร่ เขาไม่ได้คิดตามเรา แต่เราคิด พอวันที่ 22 ต.ค. ก็จะถาม ถ้าไม่เจอก็จะโทร. ถามว่าคิดว่าจะกลับมาไหม สงสารลูก แต่เขาก็จะตอบกลับมาว่าแบบนี้ดีแล้ว ก่อนหน้านี้ทำทุกปี แต่เลิกทำมา 3-4 ปีแล้ว หลังจากที่ความคิดเปลี่ยนไป”
รับอยากให้กลับมาเป็นครอบครัว เผยที่ผ่านมาตนเป็นฝ่ายถูกทิ้ง ตนไม่ได้อยากหย่า “จริงๆ ตุ๊กรู้สึกว่ามันเป็นหน้าที่ที่ตุ๊กต้องถาม ถ้ามันเกิดขึ้นจริงก็ตอบตัวเองไม่ได้ คือครึ่งหนึ่งส่วนหนึ่งเรารักเขา อีกส่วนหนึ่งเราคิดว่า เราอ้างว่าเราทำเพื่อลูก ทำอยู่ประมาณ 5 ปี น่าจะทำอยู่ 5-7 ปี ไม่ได้ทำมา 3-4 ปีแล้ว
นักข่าวไม่ทราบว่าเราเป็นคนถูกทิ้ง เราไม่ได้เป็นคนตัดสินใจเรื่องนี้ คนไม่รู้ ถ้าตามหลักนิทานคนจะมองว่าทำผิดเลยขอหย่า คนคิดว่าตุ๊กเป็นคนขอหย่าด้วยซ้ำ และตุ๊กไม่ได้อยากหย่าตั้งแต่แรก ตุ๊กคิดว่าความรักของทุกคู่มันถูกเติมทุกวัน ถ้าไม่ถูกเติมมันจะลดลง พอเราเริ่มรู้สึกก็เลยไม่ถามดีกว่า ตุ๊กมองว่ามันเป็นความรักที่ไม่ได้ถูกเติม
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตคู่ ความผิดจะคนละ 50% ไม่ว่าจะหัวข้ออะไร จะโยนความผิดให้เขาว่ามีคนอื่นแล้วผิดก็ไม่ได้ ถ้าบ้านเราแข็งแรงพอมันก็ไม่มีใครมาทำลาย มาเลื่อยขาบ้านเราได้ และพี่ดู๋ สัญญา คุณากร บอกว่ามนุษย์เปลี่ยนแปลงได้ทุกนาที ประโยคนี้เข้าหูตุ๊กเร็วมาก มันเลยไม่มีคำถามว่าทำไม”
จากนั้น “ตุ๊ก ชนกวนันท์” ได้เปิดใจเล่าถึงเหตุการณ์ในวันที่ถูก “บ๊วย เชษฐวุฒิ” ขอหย่าให้ได้ฟังอีกครั้งว่า….“พอทุกอย่างมันเฉลยหมด มันมีความรู้สึกว่าเขาแปลกๆ สิ่งใหม่ๆ ที่เขาไปเจอก็คือ 7 วันที่แล้วพอดี
รีแอ็กชั่นเปลี่ยนไป ไม่ง้อ เมื่อก่อนไม่มี และตอนนั้นตุ๊กเป็นเบบี้บลู เพิ่งคลอดลูกคนที่ 2 ก่อนคลอด เขาบอกว่าอยากมีคนที่ 3 ข่าวลือที่มีออกมา ยังอยากมีลูกคนที่ 3 อยู่เลย ไม่เคยคิดว่าจะมีวันที่หย่า
เพราะตุ๊กแอบเก็บเงินสักก้อน เอามาสร้างบ้าน ก็คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหา ก็เหลือเป็นศูนย์ แต่พอมีปัญหา ตอนนั้นรู้สึกว่า ตายแล้ว มันไม่มีสัญญาณ มันไม่มีจริงๆ ตุ๊กก็อยู่กับความสงสัย จนหยิบโทรศัพท์มาดูแล้วสงสัยกับข้อความนี้ มันเป็นเรื่องของเซ้นส์ ก็รอเพื่อที่จะคุยและขอโทษ เพราะตุ๊กถนัดเรื่องนี้
แต่กลัวเขาโกรธอีก ก็รอให้ถึงเช้า พอเช้าก็รอให้เขาไปอึก่อน เพราะกลัวเขาโกรธ เดี๋ยวเขาจะอารมณ์เสีย กลัวมาก พอเขาออกมาก็บอกว่า หนูรู้ทุกอย่างแล้วนะ หยุดเถอะ พี่พูดเองไม่ใช่เหรอว่าจะต่อต้านการมีกิ๊ก ขอให้ผู้ชายหยุด เพราะเมื่อถลำมันจะลืมตัว ตอนที่หลงมันจะไปไกล”
อึ้งไม่คิดว่า “บ๊วย เชษฐวุฒิ” จะขอหย่ากับตน เพราะเกินจะทนกับตนแล้ว“และบอกเขาว่าจะไม่พูดเรื่องนี้อีกตลอดชีวิต ไม่ได้ผล เขาไม่มีปฏิกิริยาอะไร ก็เริ่มดีกรีดรามาขึ้นเรื่อยๆ
แต่คดีพลิกคือ เขาพูดว่า พี่ทนตุ๊กไม่ได้แล้ว พี่ขอหย่าในเช้ามืดวันนั้น หนูก็ไม่ได้คิดว่าจะได้ยินคำนี้ ก็เริ่มดรามา ก็บอกว่าเราเพิ่งคลอดลูกมานะ ก็พูดทุกอย่างที่คิดว่าคำพูดนั้นมันคม เพื่อจะดึงเขากลับมาแต่มันไม่สะเทือนเลย หรือเขานิ่งก็ไม่รู้ บอกเขาให้บอกเรา จะแก้ไขให้ทุกอย่าง
เขาบอกว่า เราเปลี่ยนไม่ได้หรอก เกิดมา 30 ปีแล้วเปลี่ยนไม่ได้ เราก็บอกว่าเปลี่ยนได้ สาบานว่าเปลี่ยนไป ขอร้องทุกอย่าง สุดๆ ที่หย่าเพราะเขาบอกว่าเขาทนต่อไปไม่ไหวแล้ว เกินจะทนแล้ว แล้วเขาก็ออกไปทำงาน
แล้วตุ๊กก็โทร.หาแม่ แต่ไม่ร้องไห้ บอกแม่ไม่สบาย อุ้มลูกไม่ไหว มือมันไม่มีแรง นี่คือเรื่องใหญ่เรื่องแรกในชีวิตแต่แม่ไม่พูด และแม่แอบไปถามพี่บ๊วย เขาก็บอกแม่ว่าทนไม่ไหว อยากหย่า แล้วเขาก็คุยกับแม่และขอโทษที่ไม่เคยบอกว่าไม่พอใจอะไรบ้าง แต่วันนี้ไม่ไหวแล้ว”